화이트 타이거 가족의 새로운 식구

흰호랑이 또는 백호(White Bengal Tiger)는 벵골호랑이로 분류되고 흰색 털이며 몸 전체의 무늬가 어둡습니다. 흰색 털은 빨간색과 노란색인 멜라닌 색소가 부족하여 발생한다. 멜라닌 색소가 일반 호랑이에게 주황색 털로 변하는 것에 영향을 주기 때문 입니다. 백호는 벵골호랑이의 흰색 변종이지만 알비노 (Albino) 변종은 아닙니다

백호의 특징은

백호의 특징은 파란 눈을 가지고 있습니다. 그들 중 일부는 녹색 눈을 가질 수 있고 핑크코를 가지고 태어납니다. 대부분은 일반 호랑이보다 더 빠르게 크고 무겁습니다.백호를 자연에서 찾기 어렵지만 인도의 어느 숲에서 백호를 발견했습니다. 대부분의 백호는 다양한 동물원에서 키우고 교배시킵니다.

Image
  • 수천 마리의 민물악어 및 바다악어가 아름다운 자연에서 살고 있습니다
  • 메콩대형메기는 세계에서 가장 큰 민물 고기이며 완전히 자란 경우 무게는 최대
    (백만년 바위공원과 파타야 악어농장에 있는 메콩대형메기의 무게평균 100kg)
  • 아마존 강의 가물치
  • 징기스칸 : 멸종 위기에 처한 아름다운 물고기
  • 코끼리, 낙타, 호랑이, 흰 호랑이, 곰, 다양한 사슴
  • 백색 동물과 같은 백곰과 말, 소, 악어
  • 메콩대형메기, 플라밍고, 에뮤, 화식조, 타조 20마리 이상
Image

어리고 귀여움

Image

악어 의사

태국의 말새끼 : 코코

악어 의사

농장에서 기린의 탄생

Image

많은 새로운 식구를 탄생시킴

메콩대형메기

메콩대형메기는 인편이 없고 가장 큰 민물고기이고 최대 3m까지 클 수 있으며 무게는 150-200kg 이상일 수 있습니다. 메콩대형메기는 메콩 강이 원산지기 때문에 "메콩의 여왕"이라는 별명을 받았습니다. 남획으로 멸종 위기에 처한 물고기입니다. 백만년 바위공원과 파타야 악어농장은 메콩대형메기의 멸종 위험상황을 이해하기 때문에 메콩대형메기의 삶을 경험하는 데에 관심이 있는 사람들을 위해 이곳에서 메콩대형메기를 양식됩니다.

징기스칸

징기스칸, ‘메콩의 여왕’으로 부르는 메콩대형메기 외에도 백만년 바위공원과 파타야 악어농장은 '차오 프라야 강의 제왕’으로 부르는 징기스칸을 양식합니다. 남획 및 수질 오염으로 인해 현재 천연 수원에서는 매우 찾기 어렵습니다. 메콩대형메기와 마찬가집니다.

징기스칸은 이 강에서 가장 큰 물고기이기 때문에 '차오 프라야 강의 제왕’으로 부르게 합니다. 성숙한 크기는 길이 1–1.25m이고 가장 큰 크기는 길이 3m 이상이고 무게는 100kg 이상입니다. 또한 특징은 크고 긴 지느러미가 있습니다. 헤엄칠 때 상어 지느러미처럼 직립합니다. 이 같은 물고기가 다른 물고기보다 더 우아하게 보입니다.

" นกกาบบัว " นกที่หายากในธรรมชาติ

นกกาบบัว (Painted Stork) เป็นนกขนาดใหญ่มาก ความยาวจากปลายปากถึงปลายหาง 100 - 102 ซม. ปากยาวตอนปลายปากมักมนและโค้งลงเล็กน้อย หัวเล็ก คอค่อนข้างยาวปีกกว้างและยาว หางสั้น ขายาว นกทั้งสองเพศสีสันคล้ายกัน นกที่เต็มวัยปากสีเหลือง ลำตัวสีขาวบริเวณปีกมีแถบสีชาวสลับดำอกและปลายปีกมีแถบสีดำขนโคนปีก ขนคลุมขนปีกแถวนอกและขนบริเวณตะโพกเป็นสีชมพูขอบขนแต่ละเส้นเป็นสีขาว ขนชมพูอมขาวนี้ยาออกไปจนถึงตะโพกและหามองดูเผินๆคล้ายกับว่าใครเอาสีชมพูสดๆมาแต่งแต้มไว้
ปัจจุบัน "นกกาบบัว" เป็นนกที่หาได้ยากมากๆ ในธรรมชาติเพราะแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารถูกทำลายโดยมนุษย์ ทำให้นกกาบบัวต้องอพยพไปหาแหล่งที่อยู่ใหม่ และจะกลับมาแค่ฤดูผสมพันธุ์ พบเฉพาะทางภาคตะวันตก ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือบางส่วน แต่จากการศึกษานกกาบบัว บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง พบการทำรังวางไข่บริเวณดังกล่าว ดังนั้น นกกาบบัว น่าจะกระจายพันธุ์ทางภาคใต้ได้ด้วย

" นกตะกรุม " นกใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์

นกตะกรุม เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ที่ใกล้จะสูญพันธุ์จำเป็นต้องอนุรักษ์เอาไว้ เพราะเป็นตัวแปรที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ นกตะกรุมเป็นนกที่หาได้ยากมากในประเทศไทย เดิมเคยมีรายงานพบที่ จังหวัดศรีสะเกษ, ราชบุรี, ชุมพร, ตรัง, ประจวบคีรีขันธ์ และนราธิวาส

นกตะกรุมมีรูปร่างคล้ายคลึงกับนกตะกราม แต่มีขนาดเล็กกว่า และไม่มีถุงใต้คอ ขณะยืนมีความสูงบนหัวประมาณ 110 – 120 ซม. ความกว้างของปีกทั้งสองข้างประมาณ 210 ซม. ลำตัวด้านบนสีดำเหลือบเป็นมัน ใต้ท้องสีออกขาว มีจุดเด่น คือ ส่วนหัวและลำคอเป็นหนังสีเหลืองแกมแดง มีขนเป็นเส้นๆ ขึ้นกระจายอยู่ห่างๆ นกตะกรุม เป็นนกที่หากินสัตว์เล็กๆ ตามแหล่งน้ำเป็นอาหาร เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา มีพฤติกรรมทำรังบนยอดไม้สูง ตามป่าชายเลนหรือป่าริมน้ำร่วมกับนกตะกรามและนกกระทุง

" นกยูงไทย - นกยูงอินเดีย " ต่างกันอย่างไร

นกยูงไทยกับนกยูงอินเดีย มักถูกเรียกรวมๆว่า "นกยูง" แม้จะเป็นนกชนิดเดียวกันแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง
"นกยูงไทย"หรือนกยูงสีเขียว จัดเป็นไก่ฟ้าขนาดใหญ่ที่พบในเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นญาติใกล้ชิดกับ"นกยูงอินเดีย" นกยูงไทยตัวผู้จะมีหงอนเป็นพู่สูงและมีแผ่นหนังที่หน้าสีฟ้าสลับสีเหลืองที่เห็นได้ชัดเจน ขนลำตัวมีสีเขียวเป็นประกาย ขนคุลมโคนหางยื่นออกมายาว มีสีเขียวและมีจุดดวงตากลมมีฟ้าและน้ำเงิน ส่วนนกยูงตัวเมียมีลักษณะทั่วไปคล้ายนกตัวผู้ แต่ขนสีเหลือบเขียวจะน้อยกว่า ขนคลุมหางก็สั้นกว่า
"นกยูงอินเดีย"หรือนกยูงสีน้ำเงิน จัดเป็นนกยูงชนิดหนึ่งที่กระจายพันธู์ในประเทศอินเดีย,เนปาล,บังกลาเทศ,ภูฏาน,ศรีลังกาและปากีสถานนกยูงอินเดียจะมีขนาดเล็กกว่านกยูงไทย แต่จะมีขนหงอนเป็นรูปพัด สีของผิวหนังบริเวณหน้าจะมีสีขาวและสีดำบริเวณตา ขนที่คอและลำดับเป็นสีน้ำเงิน

นกยูงทั้ง2ชนิดสามารถหาชมได้ตามสวนสัตว์ทั่วไป และที่ #อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา ก็มีนกยูงคอยให้บริการนักท่องเที่ยวได้รับชม

" นกแก้วมาคอร์ " ยักษ์ใหญ่แห่งโลกนกแก้ว

นกแก้วมาคอร์ เป็นนกแก้วที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นนกที่รู้จักกันในนามยักษ์ใหญ่แห่งโลกนกแก้ว โดยมีความยาวเกือบ 40 นิ้ว หนักถึง 2 กิโลกรัม และเป็นนกที่มีอายุยืนยาว อายุขัยเฉลี่ย 30-50 ปี บางตัวอยู่ได้ถึง 80 ปี นกแก้วมาคอร์มีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ของอเมริกาเหนือ (เม็กซิโก) รวมถึงอเมริกากลางและอเมริกาใต้
เมื่อ100 ปีก่อนนี้ ชนเผ่าพื้นเมืองอะเมซอนและนักเดินเรือสินค้า เริ่มจับลูกนกป่าออกมาขาย และนำมาเพาะพันธุ์ในกรงเลี้ยงได้สำเร็จ จนในปัจจุบันเป็นนกที่ได้รับความนิยมนำมาเลี้ยงมาก เพราะเป็นนกที่มีสีสันสวยงาม สีสด และฉูดฉาด ใครพบเห็นจะหลงเสน่ห์แทบทั้งสิ้น

นกเงือกนักปลูกป่า

“นกเงือกในไทย” ได้รับฉายา “นักปลูกป่า” ในระบบนิเวศทางธรรมชาติของบ้านเรา จากพฤติกรรมการกินผลไม้ที่หลากหลาย ซึ่งบางครั้ง “เมล็ดพันธุ์” ที่นกเงือกกักตุนไว้เป็นอาหารในปาก ก็มีการหลุดรอดลงสู่ผืนป่า ระหว่างการบินกลับมายังรังของตัวเอง ทำให้เป็นการกระจายเมล็ดพันธุ์ใหม่ ๆ จนเกิดการรักษาความหลากหลายของพันธุ์ไม้ในผืนป่าไปในตัว
นกเงือกกินลูกไม้ของต้นไม้ในสังคมป่าเขตร้อนมากกว่า 100 ชนิด ลองคิดดูว่า โดยทั่วไปนกเงือกสามารถมีอายุยืนยาวได้ถึง 30 ปี และแต่ละตัวสามารถช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ไม้มากกว่า 100 เมล็ดต่อสัปดาห์ หากไม้เหล่านี้สามารถเจริญเป็นไม้ใหญ่ได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ หนึ่งชีวิตของนกเงือกจะสามารถปลูกไม้สำคัญของป่าได้ถึง 500,000 ต้น ถ้าป่าไหนมีนกเงือกอยู่ถึง 500 ตัว ป่าเหล่านั้นจะไม่เป็นป่าที่สมบูรณ์ได้อย่างไร
เราสามารถหาชมนกเงือกได้ทั่วไปตามสวนสัตว์ต่างๆ และที่ "อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา" มีนกเงือกให้ชมถึง 2 ชนิด มี "นกเงือกหัวแรด" และ "นกกก"

นกอีมู

นกที่เคยต่อสู้กับมนุษย์

นกอีมู (Common Emu) เป็นนกประจำถิ่นของออสเตรเลีย มันเป็นญาติกับนกกระจอกเทศ แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยนกชนิดนี้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลีย แล้วทำไมมนุษย์ต้องไปต่อสู้กับเจ้านกอีมูกันหล่ะ.......
เรื่องราวเริ่มหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 นกอีมูจำนวน 20,000ตัว บุกมาทำลายพืชไร่ของเกษตรกรในพื้นที่ สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก แล้วหน่วยงานท้องถิ่นสั่งใช้อาวุธปืนสังหารนกเหล่านั้น แต่แล้วสภาพอากาศไม่เป็นใจ เพราะฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ ฝูงนกอีมูจึงกระจายตัวกันออกไปทั่ว นกยักษ์อยู่ไม่เป็นกลุ่มก้อน จึงทำให้ยากต่อการควบคุม สภาท้องถิ่นรายงานว่า ใช้กระสุนไป 9,860 นัด สังหารนกได้ 986 ตัว เฉลี่ยแล้วใช้กระสุน 10 นัดต่อนก 1 ตัว สำหรับชาวออสเตรเลีย ต้องยอมรับว่าการรบครั้งนี้ไม่สามารถเอาชนะฝูงนกอีมูได้ เลยกลายเป็นเรื่องล้อเลียน หยอกล้อ เฮฮากันมาจนถึงทุกวันนี้

“คนออสเตรเลียยกย่องนกอีมูและให้เกียรตินกอีมู เป็นสัตว์ที่ปรากฏบนสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลียคู่กับจิงโจ้ (ตราแผ่นดินของออสเตรเลีย)”

นกคาสโซวารี่

นกที่อันตรายที่สุดในโลก!!!

นกโหดๆ มีแรงถีบเป็นอาวุธประจำตัวและยังไม่สูญพันธุ์ นกชนิดนี้มีชื่อว่า "นกคาสโซวารี่" นกคาสโซวารี่เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดใน ทวีปออสเตรเลีย และในประเทศปาปัวนิวกินี เป็นนกในตระกูลเดียวกับนกอีมู แต่มีขนาดใหญ่กว่านกชนิดนี้มีแรงเตะมหาศาลและตามมาด้วยเล็บนิ้วเท้า 3 นิ้วที่แหลมคมมาก ทำให้ชนเผ่าพื้นเมืองให้ความเคารพนกชนิดนี้ และพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่งด้วย เพราะหมายถึงชีวิต

นกตะกราม

สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของโลก!!!

"นกตะกราม"Greater Adjutant เป็นนกกระสาขนาดใหญ่ที่เคยมีถิ่นกระจายพันธุ์ทั่วเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชอบหากินอยู่ตามหนองน้ำ ทุ่งนา ทะเลสาบ ที่โล่ง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในนกที่ใกล้สูญพันธุ์ในระดับโลก ในประเทศไทยแทบไม่พบนกตะกรามในธรรมชาติ

นกเงือก

สัญลักษณ์แห่ง "รักแท้"

“นกเงือก” เป็นสัญลักษณ์แห่ง " รักแท้ "เพราะเมื่อนกเงือกจับคู่ผสมพันธุ์กันแล้ว จะผูกพันกันแค่ 2 ตัวตลอดชีวิต จะใช้ชีวิตคู่แบบ "ผัวเดียวเมียเดียว" จนแก่เฒ่าหรือกว่าจะตายจากกัน และตัวผู้ยังมีลักษณะของหัวหน้าครอบครัวที่ดี คอยหาอาหารให้และคอยดูแลปกป้องลูกนกและแม่นกให้ปลอดภัย
ปัจจุบันนกเงือกในประเทศไทยมีทั้งหมด 13 สายพันธุ์ จากทั้งหมดกว่า 54 สายพันธุ์ที่มีอยู่ทั่วโลกแล้วที่ทุกท่านเห็นอยู่นี่คือ "นกกก"(นก-กก) เป็นนกที่มีลำตัวขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มนกเงือก 13 ชนิดที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย มีลำตัวยาวจากหางถึงปาก อาจจะถึง 150 ซม. น้ำหนักหลายกิโลกรัม เป็นนกที่มีอายุยืนได้ถึง 30-40 ปี

เสือโคร่งขาว

เสือโคร่งขาวมีนัยย์ตาสีฟ้า บางตัวอาจมีตาสีเขียว สีเหลืองอำพัน จมูกสีชมพู ส่วนมากจะตัวใหญ่กว่า หนักกว่า เติบโตเร็วกว่าเสือโคร่งปกติ นอกจากนี้ลูกแรกเกิดของเสือขาวก็มีแนวโน้มตัวใหญ่กว่าด้วย เสือโคร่งขาวเพศผู้จะโตเต็มที่เมื่อมีอายุ 2-3 ปี น้ำหนัก 200-230 กิโลกรัม ความยาว 3 เมตร และก็เหมือนเสือโคร่งทั่วไป ลายของเสือโคร่งขาวแต่ละตัวจะมีรูปแบบลายไม่ซ้ำกัน ลายที่เราเห็นเป็นลายที่อยู่ในชั้นของผิวหนังแม้จะโกนขนออก ลายก็ยังคงอยู่บนหนังเสือ
แม้ว่าเสือโคร่งขาวเป็นเสือที่หาได้ยากมากในธรรมชาติปัจจุบันยังมีรายงานการพบเสือขาวในป่าของอินเดีเป็นระยะๆ เสือโคร่งขาวส่วนมากจะได้รับการเลี้ยงดูและขยายพันธุ์ในสวนสัตว์ต่างๆ

ยีราฟ

ทำไมยีราฟถึงคอยาว ???

ยีราฟซึ่งเป็นสัตว์ที่มีลักษณะที่โดดเด่นที่สุดชนิดหนึ่งในโลก มีคอที่ยาวอย่างน่าอัศจรรย์ ได้ถึง 2 เมตรเลยทีเดียว แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ยีราฟนั้นมีจำนวน กระดูกสันหลังส่วนคอ เท่ากับมนุษย์ ยีราฟสามารถยืดคอไปเหนือยอดไม้เพื่อกินใบไม้อ่อนๆ และช่วยให้มันมองเห็นสัตว์นักล่าจากระยะไกลอีกด้วย ยีราฟใช้ขาอันทรงพลังของมันเตะอย่างรุนแรง เพื่อใช้ป้องกันตัว

ตะโขง

สัตว์หายาก!!!

“ตะโขง” หนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานที่คนไทยรู้จักกันมานาน จากคำว่า “ไอ้เข้ ไอ้โขง”...เรามักจะเห็นกันแต่จระเข้ น้อยคนมากจะเคยได้เห็น“ตะโขง”ตัวจริงในธรรมชาติเพราะตะโขงเป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยมานานแล้ว
เนื่องจากถิ่นที่อาศัยดั้งเดิม ซึ่งเป็นป่าโกงกางธรรมชาติบริเวณปากแม่น้ำติดทะเล ถูกทำลายมาสร้างบ้านแปงเมืองไปจนหมด ปัจจุบันแทบไม่เหลือป่าโกงกางดั้งเดิมในธรรมชาติแล้ว อาจจะยังคงมีเหลือตกค้างอยู่บ้างในภาคใต้ตอนล่าง ทางฝั่งทะเลอันดามัน

ม้าลาย

ม้าลายตัวสีขาวสลับดำ หรือสีดำสลับขาว???

ม้าลายเป็นม้าสีดำที่มีลายสีขาวแรกเริ่มเดิมทีนั้นม้าลายมีตัวเป็นสีดำ ลายสีขาวมีแค่เล็กน้อยเท่านั้น จนกระทั่งย้อนไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน เมื่อสีดำถูกดึงดูดสัตว์นักล่าตัวอื่นๆ ม้าลายจึงมีวิวัฒนาการ ลายขาวเพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ในการพรางตัวนั่นเอง