ตามหลักฐานมีการขุดพบฟอสซิลจระเข้หลายสิบสายพันธุ์ ทั่วทุกมุมโลก
แถมลักษณะรูปร่างก็ใกล้เคียงกัน ปัจจุบันนี้มีเพียง 25 สปีชีส์ แถมหน้าตาไม่ต่างจากเมื่อ 200 ล้านปีก่อนอีกด้วย จระเข้มีลักษณะรูปร่างแบบนี้มา 200 ล้านปี แล้วทำไมถึงไม่มีวิวัฒนาการเหมือนสัตว์อื่นๆที่ต้องวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดในภาวะที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เช่น แมลงที่มีวิวัฒนาการให้ตัวเล็กลงเพราะความหนาแน่นของออกซิเจนน้อยลง หรือนกที่มีวิวัฒนาการ มาเป็น 10,000 สายพันธุ์เพื่อให้เข้ากับภูมิประเทศนั้นๆ แต่เพราะอะไรจระเข้ถึงยังอยู่รอดได้โดยไม่วิวัฒนาการ???
ตั้งแต่จระเข้รอดจากการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ครั้งใหญ่มาได้ จระเข้ก็กลายเป็นนักล่าชั้นบนสุดในหนองน้ำ และจระเข้ก็กินอาหารได้เกือบทุกอย่างแม้กระทั่งจระเข้ที่ตัวเล็กกว่า น้ำย่อยของมันถือว่ามีฤทธิ์ในการย่อยที่รุนแรงที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตใดๆ ในโลก และเป็นเหตุผลให้พวกมันแทบจะกินอะไรก็ได้เพราะระบบย่อยอาหารจัดการย่อยสลายได้หมด อีกหนึ่งความสุดยอดคือจระเข้สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่ได้กินอะไรเลยหลายเดือนเพราะระบบเมตาบอลิซึมในการสกัดสารอาหารของพวกมันดีมากๆ เรียกได้ว่าเก็บพลังไว้ทุกส่วนได้เต็มๆ นี่ยังไม่ต้องนับการที่มันเป็นสัตว์เลือดเย็นที่ไม่มีความจำเป็นต้องกินอะไรบ่อยๆ ในการรักษาอุณหภูมิร่างกายด้วย
นี่เป็นเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้จระเข้ไม่ต้องวิวัฒนาการเพราะธรรมชาติสร้างให้จระเข้สมบูรณ์แบบมา 200 ล้านปีแล้ว

มีน้องๆ หลายคนสงสัยและถามแอดมินว่า ทำไมจระเข้ถึงนอนอ้าปาก ทำไปเพื่ออะไร?? เดี๋ยวแอดมินจะตอบข้อสงสัยของทุกคน
โดยธรรมชาติ จระเข้เป็นสัตว์เลือดเย็น มีผิวหนังที่หนาและไม่สามารถปรับอุณหภูมิในร่างกายได้ด้วยตัวเอง จึงต้องใช้อุณหภูมิภายนอกช่วย เมื่อถึงฤดูหนาว จระเข้จะมานอนอาบแดดบนบก เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และถ้าร่างกายอบอุ่นหรือร้อนเกินไป จระเข้ก็จะนอนอ้าปาก เพื่อเป็นการระบายความร้อน

ประมาณเดือนมีนาคมถึงมิถุนายนของทุกๆปี เป็นฤดูวางไข่ของจระเข้ ไข่จระเข้มีลักษณะคล้ายๆไข่เป็ดแต่จะมีความเรียวยาวและใหญ่กว่าเล็กน้อยเปลือกก็จะหนากว่า ไข่จระเข้ในปัจจุบันนิยมนำมารับประทานเพราะมีคุณค่าทางอาหารที่มากกว่าไข่เป็ด ไข่ไก่ ที่บริโภคทั่วไป ไข่จระเข้ 1ฟอง จะให้พลังงาน 128 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะแก่การนำไปทำเมนูเพื่อสุขภาพ
และที่นี่ #อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา มีไข่จระเข้(ปลอดเชื้อ) สดใหม่จากรัง พร้อมจำหน่ายให้กับทุกท่านในราคา แพ็กละ 100.- (1 แพ็กมี 3 ฟอง) 1 ปีมีครั้ง

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวไหนคือจระเข้น้ำจืดตัวไหนคือจระเข้น้ำเค็ม จระเข้น้ำจืดจะอาศัยอยู่ตามห้วย,หนอง,คลอง,บึงและในแม่น้ำ แต่จระเข้น้ำเค็มสามารถอาศัยในน้ำจืด,น้ำเค็มและน้ำกล่อย เช่น ปากแม่น้ำ,ป่าชายเลนหรือบางครั้งอาจพบเห็นในทะเล วิธีจำแนกที่ง่ายที่สุดคือการสังเกตุเกล็ดบนท้ายทอยจระเข้ ถ้ามีเกล็ดบนท้ายทอย 3-4 เกล็ดนั่นคือจระเข้น้ำจืด ถ้าไม่มีนั่นคือจระเข้น้ำเค็ม ข้อแตกต่างอีกประการ ที่ดูได้ยากกว่าคือ พังผืดบริเวณนิ้วเท้าคู่หลัง ลักษณะคล้ายตีนของเป็ด ซึ่งจระเข้น้ำเค็มจะมีมากกว่าน้ำจืด

จระเข้น้ำเค็มจัดว่าเป็นสายพันธุ์จระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โตเต็มที่ได้ถึง 4-5 เมตร พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ภูมิภาคเอเชียใต้จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศออสเตรเลียทางตอนเหนือ จระเข้น้ำเค็มมีอุปนิสัยดุร้ายมาก อีกทั้งยังมีแรงกัดของฟันกรามที่รุนแรงมากที่สุดในโลก โดยมีแรงมากถึง 1,700 ปอนด์

ที่นี่เรามีจระเข้น้ำเค็มจำนวนมากที่สุดในประเทศไทยแล้วยังมีพื้นที่กว้างขวางที่สุดอีกด้วย มาชมอาณาจักรจระเข้น้ำเค็มพร้อมกับกิจกรรมการให้อาหาร กันได้

จระเข้น้ำจืดจัดเป็นจระเข้ขนาดปานกลางค่อนมาทางใหญ่ (3 - 4 เมตร) โดยปกติจะกินปลาและสัตว์อื่นที่เล็กกว่าเป็นอาหาร จะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหาร ปัจจุบัน จระเข้สายพันธุ์นี้แท้ ๆ ก็ยังหายากในสถานที่เลี้ยง เนื่องจากถูกผสมสายพันธุ์กับจระเข้สายพันธุ์อื่นจนเสียสายพันธุ์แท้ไปด้วยจากเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ

ในอดีตจระเข้เป็นสัตว์ที่ชุกชุมมากในบึงบอระเพ็ด และจระเข้พันธุ์บึงบอระเพ็ดเป็นจระเข้ที่มีราคาแพง เพราะมีหนังสีเหลืองสวย ในบึงบอระเพ็ดมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะแก่การอาศัยของจระเข้

อุทยานหินล้านและฟาร์มจระเข้พัทยา สถานที่ท่องเที่ยวในพัทยาที่รวมพันธุ์ไม้และสัตว์ที่หาดูได้ยาก รวมถึงหินรูปร่างแปลกตาต่างๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจและศึกษาธรรมชาติ